Search

สมัยที่ทำงานกราฟฟิค เวลาเราทำงานในโปรแกรม Photosho...

  • Share this:

สมัยที่ทำงานกราฟฟิค เวลาเราทำงานในโปรแกรม Photoshop เรามักจะแบ่งงานเป็นหลาย Layer เพื่อการทำงานที่สะดวกมากขึ้น Layer เป็น Option ที่ดีของการทำงานกราฟฟิก เพราะมันแยกออกจากกันเป็นชั้น แต่ละชั้นก็คือการเปลี่ยนแปลงของรูปหนึ่งครั้ง และทับกันไปมาได้ตามแต่เราต้องการ

เราไม่ใช้อันไหนก็กด Hide มันออก หรือถ้าไม่จำเป็นก็ลบมันทิ้ง บางทีเราซ้อนรูปทับกันไปมามากๆ แต่งเติมรูปไปเยอะๆ พอกดไปดูที่ Layer ล่างสุดที่เป็นรูปแรกที่เราเริ่มทำงาน ก็พบว่ามันเปลี่ยนไปจากเดิมเยอะมากเหมือนกัน

ความรู้สึกของเราก็เช่นกัน

แปลกที่พอเราเริ่มแคร์ใครมากขึ้น รู้สึกรักและผูกพันธ์กับใครมากขึ้น เราจะเริ่มสร้าง Layer ของความรู้สึกต่างๆมาทับซ้อนความรู้สึกจริงๆของเรา

เลเยอร์พวกนี้คือชั้นที่เราซ้อนทับความรู้สึกจริงด้วยความรู้สึกปลอมที่เราแสร้งว่าเป็น เช่น จริงๆแล้วเรารู้สึกไม่ชอบให้แฟนไปเที่ยวกลางคืน แต่เราก็ทำเป็นแสดงออกว่าไม่เป็นไรไปได้

หรือเรารู้สึกสงสัยเรื่องคนที่ทักมาใน line เมื่อกี้ แต่ก็แสดงออกทำเป็นว่าไม่คิดอะไร

หรือเรามีเรื่องบางอย่างที่เราไม่พอใจ แต่เราก็ทำเป็นว่าเราไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น

เลเยอร์ของความรู้สึกมักมีความหนาของชั้นตามความรู้สึกของคนที่เราวางไว้ ยิ่งกับคนที่เรารักและตั้งความหวังไว้อย่างแฟน จำนวนชั้นก็มักจะทับหลายชั้นมากจนแม้แต่ตัวเองก็กลับไปหาความรู้สึกจริงๆยาก

"ทำไมเราถึงไม่ค่อยบอกความรู้สึกจริงๆ หรือเรื่องที่เราต้องการจริงๆให้คนที่เรารักรู้ตรงๆ?"

เราอาจไม่อยากดูงี่เง่าเมื่อไม่อยากให้แฟนไปเที่ยวกลางคืน

เราอาจไม่อยากดูขี้สงสัยเวลามีคนทักไลน์มาตอนดึก

หรือเราอาจไม่อยากบอกว่าไม่พอใจสิ่งนี้ เพราะคาดว่าอีกฝ่ายต้องรู้เองว่าเราไม่พอใจ

เราอาจไม่อยากดูเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย จึงพยายามไม่แสดงออกว่าเป็นอย่างนั้น แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเรามักเลือกวิธีแบบนี้ และทับกับชั้นบนสุดด้วยคำว่า "ไม่ได้เป็นอะไร"

เลเยอร์ของความรู้สึกมักสร้างปัญหาให้ความสัมพันธ์ของเราเสมอ เพราะสุดท้ายกลายเป็นเราเองที่ไม่เคยปกปิดความรู้สึกจริงได้ทั้งหมด ในขณะที่เราแสร้งปกติ แต่ความโกรธความน้อยใจของเราข้างในที่เก็บไม่ไหวจะทำให้เราแสดงออกมาอีกแบบ และเราเองก็มักจะเลือกทิ้งปริศนาบางอย่างให้อีกฝ่ายรู้ว่าเราไม่พอใจ

สุดท้ายอีเลเยอร์ที่อยู่ใต้สุดก็พยายามแทรกขึ้นมาอยู่ดี

ความซับซ้อนของเลเยอร์เหล่านี้หลายครั้งก็ทำให้ความสัมพันธ์กลับยิ่งแย่ลงและวุ่นวายขึ้น จริงอยู่เลเยอร์ที่จำนวนชั้นไม่มากก็อาจจะเป็นตัวกรองคำพูดและอารมณ์ของเราได้ดี แต่ถ้าชั้นมันสูงไปจนกลายเป็นบั่นทอนความรู้สึกซึ่งกันและกัน วิธีการหนึ่งในการรักษาความสัมพันธ์กับคนที่เรารัก นอกจากจะลองลดเลเยอร์ความรู้สึกของเราลงแล้ว

เราอาจจะลองเพิ่มความเป็นเพื่อนกับคนที่เรารักลงไปด้วย

สังเกตมั้ยว่าในความสัมพันธ์แบบเพื่อนเราจะสามารถพูดคุยสื่อสารกันได้อย่างสบายใจ และแน่นอนด้วยคำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายสบายใจด้วย

ในหลายเรื่องที่เป็นเหตุการณ์คล้ายกัน เรากลับเข้าใจเพื่อนได้ง่ายกว่า เราปล่อยวางและใช้คำว่า "ไม่เป็นไรมึง" ที่ออกมาจากใจได้มากกว่าคนที่เรารักในฐานะแฟน

สุดท้ายถ้าเค้ายังเป็นอีกคนที่สำคัญสำหรับเรา

ลองลดความคาดหวังในตัวเค้าลงไปบ้าง ลองลดความคิดที่ว่าเค้าจะต้องรู้ ต้องเข้าใจทุกอย่าง หรือต้องไม่มีข้อผิดพลาดอะไรทั้งสิ้นออกไปบ้าง และลองเพิ่มความเข้าใจในแบบเพื่อนกับเค้าดู

เรื่องบางอย่างที่มันง่ายเวลาคุยกับเพื่อน เราก็อาจจะสามารถคุยกันได้ง่ายๆกับคนที่เรารักได้เช่นกัน มีอะไรบอก อยากรู้อะไรถาม โกรธก็พูด รักก็แสดงออก

บางทีเข้าใจกันบ้าง บางทีมันอาจจะมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่สุดท้ายการเลือกพูดตรงๆกันแต่แรก อารมณ์และความรู้สึกย่อมต่างกับตอนที่ตัดสินใจพูดตรงๆหลังจากผ่านสงครามเย็นกันมาแล้วแน่นอน

เวลาในหนึ่งวันไม่ได้มีมาก เราหมดเวลาและพลังงานไปกับการทำงานและความเครียดก็เกินไปกว่าครึ่งแล้ว

แล้วเราจะมัวเสียเวลาไปกับเลเยอร์ที่ทับความสุขของเราไปทำไม


กด Hide มันทิ้งบ้าง ชีวิตจะง่ายขึ้นอีกมาก


รัก

ช่า บันทึกของตุ๊ด


Tags:

About author
not provided
ติดต่องานเพจ คุณช่า 095-197-8965 line : Shaaeng , คุณม่อน 099-2266459 หรือ [email protected]
View all posts